ประวัติ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ นักแสดงหน้าหล่อหุ่นดี มาดกวน อารมณ์ติสต์

หากจะถามหาพระเอกในวงการบันเทิงที่มีความติสต์แตก สักคน เราเชื่อว่า ชื่อของ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ เป็นหนึ่งในลิสต์คำตอบแน่นอน แต่ความติสต์แตกของเขาต้องยอมรับว่าฝีมือการแสดงของเขา ไม่เคยตกลงเลย บทบาทไหนก็ตามหากเขารับเล่น รับประกันได้เลยว่า ปังแน่นอน เราไปทำความรู้จักชายคนนี้กัน

ประวัติส่วนตัว

ชื่อจริงของเขา ตามนั้นเลย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2524 ตามประวัติเขาถือว่าเป็นพระเอกที่มีหลายเชื้อชาติในตัวเลยทั้งไทย สิงคโปร์ และ ฝรั่งเศส แม้จะมีหลายเชื้อชาติแต่หนุ่มคนนี้เกิดและเติบโตที่ประเทศไทย ปัจจุบันเขาเล่นไอจีด้วย ไปกดติดตามกันได้ที่ sunny_suwanmethanont เรื่องการเรียน ซันนี่ เรียนระดับประถมจนถึงจบมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนพระมหาไถ่ศึกษา แล้วไปต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี แล้วไปต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คณะนิเทศศาสตร์ เรื่องส่วนตัวเคขามีความน่าสนใจตรงที่ว่า เขาเคยบอกว่านับถือศาสนาคริสต์ แต่ว่าตอนนี้เขาบอกว่าตนเองไม่ได้นับถือศาสนาใดๆเลย

การเข้าสู่วงการบันเทิง

การเข้าสู่วงการบันเทิงของเขา เริ่มต้นจากการไปถ่ายโฆษณา ซึ่งเขาถ่ายหลายตัวมาก ไม่ว่าจะเป็น บัตรเคทีซี แคช, เอไอเอส, ทีซีบี ทูน่าสเปรด, เบียร์สิงห์ , ขนมฮานามิ ก่อนจะที่จะมีโอกาสได้เข้าไปแคสติ้งงานอีกหลายครั้งในเวลาต่อมา

ผลงานแจ้งเกิด

ทีนี้มาดูผลงานแจ้งเกิดกันบ้าง แน่นอนว่าเราต้องเลือกการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาอย่าง เพื่อนสนิท เรื่องราวที่เล่าถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนที่ไปไกลกว่าเพื่อน และหลังจากนั้นด้วย เรื่องนี้ถือว่า ซันนี่ ในบทบาท หมู หรือ ไอ้ไข่ย้อย ของใครหลายคน แจ้งเกิดได้เลย (พร้อมกับตัวนำอีกสองคนอย่าง ศิรพันธ์ วัฒนจินดา และ มณีรัตน์ คำอ้วน) ไม่เท่านั้นเรื่องนี้ยังส่งให้ ซันนี่ ได้รางวัล นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาประเภทภาพยนตร์ จากเวที คมชัดลึก อวอร์ด ด้วย

จากความสำเร็จในเรื่องดังกล่าว นั่นทำให้ เขาได้รับโอกาสเล่นหนังอย่างต่อเนื่อง เรื่องต่อไปก็คือ สายลับจับบ้านเล็ก ในบท มานะ นักสืบกระจอกที่ดันไปหลงรักเป้าหมายซะอย่างนั้น เรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากทางด้านรายได้ ก่อนที่เจ้าตัวจะมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง ในเรื่อง ซัมบาลา เรื่องราวการเดินทางของสองพี่น้องที่นิสัย แตกต่างกันสุดขั้ว แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของรายได้ แต่เรื่องคำวิจารณ์ชี้ไปทางบวกเหมือนกันหมด

จนกระทั่งปี 2557 เหมือนเจ้าตัวจะได้กลับมาจับบทที่ถนัดอีกครั้งกับเรื่อง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ในบทบาทยิม นายช่างโรงงานสุดโหดที่ต้องมาเรียนภาษาอังกฤษแบบรวบรัด กับครูสาวแสนสวย ที่จากการเรียนกลายเป็นความรักซะอย่างนั้น เรื่องนี้ถือว่าประสบความสำเร็จทั้งรายได้ ชื่อเสียง และเป็นกระแสไปทั่วบ้านทั่วเมือง เพลงประกอบภาพยนตร์กลายเป็นเพลงที่ต้องเปิดกันทุกที่เพื่อสร้างความสนุกสนาน ไม่เท่านั้น ซันนี่ ได้รับรางวัลพระราชทางพระสุรัสวดี สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอีกด้วย แล้วยังได้เข้าชิงอีกหลายเวทีในปีนั้น

ปีต่อมา 2558 ยังถือว่าเป็นช่วงเวลาขาขึ้นของพระเอกคนนี้ กับภาพยนตร์เรื่อง ฟรีแลนซ์…ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ กับบทบาท ยุ่น ฟรีแลนซ์ขั้นเทพที่ทำงานจนป่วย จนต้องไปเจอกับหมอสาวแสนสวย แล้วจากนั้นก็เกิดเรื่องราวมากมาย หนังได้สะท้อนชีวิตที่ไม่ได้ฟรีแบบที่คิดของฟรีแลนซ์ยุคนี้ เรื่องนี้เป็นอีกครั้งที่ปังมากในเรื่องของรายได้ กระแสตอบรับล้นหลามมาก ไม่เท่านั้นเจ้าตัวยังกวาดรางวัล สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ ไปถึง ห้าเวที ด้วยกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่กลายเป็นผลงานที่น่าจดจำไป แม้จะติสต์ แต่บอกเลยว่าฝีมือการแสดงขั้นเทพของจริง